วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554

"ก๋วยเตี๋ยวคงกระพัน" กับค่าของเงินที่เปลี่ยนไปตามเวลา

               
                                        
วันเวลาผ่านไป เงินก็เริ่มลดมูลค่าลงเรื่อยๆ (เป็นไปได้ไงหว่า)  
    
เพื่อให้มองเห็นภาพง่าย ๆ หากเราย้อนอดีตไปยังปี พ.ศ.2500  ขณะนั้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชามราคา 50 สตางค์ ( ประมาณนี้แหล่ะ ลองถามคุณตา คุณยายที่บ้านดู )ปัจจุบันปี พ.ศ.2554 เวลาผ่านมา 54 ปี ก๋วยเตี๋ยว 1 ชามราคา 30 บาท ถ้าจะซื้อก๋วยเตี๋ยว 1 ชามมีเงินแค่ 50 สตางค์ก็ซื้อไม่ได้เสียแล้ว จะเห็นได้ว่าค่าของเงินเมื่อ 54 ปีก่อนมีมูลค่าลดลงไปอย่างมากเลยทีเดียว
     
และถ้าจะสมมุติให้โอเวอร์ขึ้นไปอีก สมมุติว่าเมื่อปี พ.ศ.2500 นาย ก. และนาย ข. มีเงินคนละ 50 สตางค์ นาย ก.เอาเงินจำนวนนั้นหยอดกระปุกไว้ ส่วนนาย ข. เอาไปซื้อก๋วยเตี๋ยว"คงกระพัน"( ไม่มีวันบูด )แล้วเก็บไว้ เมื่อเวลาผ่านไป 54 ปี ถ้านาย ก. อยากกินก๋วยเตี๋ยว"คงกระพัน"ของนาย ข. นาย ก. ทุบกระปุกออกมา เงินของนาย ก. กลับไม่สามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวจากนาย ข. ได้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อ 52 ปีก่อนก็คือเงิน 50 สตางค์เท่ากัน จากตัวอย่างนี้

 เมื่อปี พ.ศ.2500
 
ก๋วยเตี๋ยวของนาย ข.มีมูลค่าปัจจุบัน 50 สตางค์ มูลค่าอนาคต 30 บาท
 
แต่เงินของนาย ก.มีมูลค่าปัจจุบัน 50 สตางค์ มูลค่าอนาคตก็ยังคงเป็น 50 สตางค์เหมือนเดิม



 ถ้าสมมุติว่านาย ก.สามารถหาเงิน 30 บาทมาซื้อก๋วยเตี๋ยว"คงกระพัน"ของนาย ข.ไปได้เท่ากับว่านาย  ข. ได้กำไร      
 จากก๋วยเตี๋ยว " คงกระพัน " ได้ 29.50 บาท คิดเป็น 59 เท่า หรือ 5900% แล้วถ้าวันนั้น นาย ข.เอาเงิน  1 ล้านบาท 
 ไปลงทุนซื้อไอ้ก๋วยเตี๋ยวที่ว่านี้ล่ะ หุหุ

 เอ้าว่าแล้วพวกเราไปซื้อก๋วยเตี๋ยวเก็บไว้กันดีกว่า อิอิ 
 ตอนหน้าผมจะเล่าถึงวิธีการที่จะรักษามูลค่าที่แท้จริงของเงินให้ทราบนะครับ

 Credit : vistockvalue.blogspot.com/  สำหรับการ ก๋วยเตี๋ยวคงกระพันนะครับ ชื่อเท่มากมาย

1 ความคิดเห็น: